สาดน้ำแกงใส่พระ เจ้าอาวาสลั่น รับคำขอโทษเป็นเงินสด 3 ล้าน

สาดน้ำแกงใส่พระ เจ้าอาวาสลั่น รับคำขอโทษเป็นเงินสด 3 ล้าน

เจ้าอาวาส ลั่น รับคำขอโทษเป็นเงินสด 3 ล้าน กรณี เจ๊บัวบาน สาวสองอ้างนอนน้อย ทำท่าคล้ายกับหกล้ม แล้วสาดน้ำแกงใส่พระ ปมดราม่า ญาติโยม กับ ภิกษุ หลังโซเชียลถล่มวิจารณ์คลิปโยมสาวสอง ถือถาดอาหารแล้วทำท่าคล้ายหกล้ม สาดน้ำแกงใส่พระ เจ้าอาวาส โดยชาวเน็ตหลายคนเมื่อเห็นคลิปก็มองว่า เป็นการจงใจสาดแกงใส่ เหตุฉุนที่เจ้าอาวาสขายโลงเย็นโดยไม่บอกคณะกรรมการวัด

ความคืบหน้าล่าสุด (28 ธ.ค.64) รายงานจาก ข่าวช่อง 3 ภายหลังจากที่ พระประเสริฐ ฐานุตตะโร อายุ 62 ปี เจ้าอาวาสวัดเจริญวารี จ.ขอนเเก่น 

ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ชนบท กรณี ถูก นายกิจเหมรัตน์ โพธิยาคำหอม อายุ 48 ปี หรือ “เจ๊บัวบาน“ ชาวบ้านโนนพะยอม ทำถาดอาหารเทราดใส่ ซึ่งต่อมา เจ๊บัวบานเจ้าของถาดอาหารก็ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ

เจ๊บัวบาน เล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปนั้น ตนเองไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะนอนน้อย เนื่องจากคืนหก่อนทำบุญได้ไลฟ์สดขายของ จนเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้ามืดแล้วเดินหกล้มเทกระจขาดแกงใส่พระ

ขณะเดียวกัน เจ๊บัวบาน เจ้าของสตอรี่สาดน้ำแกงใส่พระ ยังเล่าต่อว่า ปกติเธอทำบุญที่วัดนี้ทุกวัน แต่หลายปีที่ผ่านมาเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม เช่น พระรูปนี้ได้เอาโลงเย็นที่ญาติโยมนำมาถวายไปขายให้กับคนเก็บของเก่า 600 บาท โดยไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมการหรือชาวบ้านทราบ

ด้าน เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าเป็นช่วงจังหัน ญาติโยมเข้ามาทำบุญจำนวนมากเป็นปกติ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คาดคิดว่าจะลงเอยเช่นนั้น ตอนนี้ยังรู้สึกปวด ถ้วยแกงหกใส่ก็เจ็บ ที่บอกว่าไม่เจตนา เพราะนอนไม่พอนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อ ขณะที่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคู่กรณีแต่งขันธ์ 5 ขันธ์ 8 มาขอขมาจะยอมไหม เจ้าอาวาสนิ่งคิดอยู่นาน ก่อนจะตอบว่าให้อภัยก็ได้ แต่ต้องมีเงิน 3 ล้านบาท เป็นค่าทำขวัญมาขอโทษ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องแต่งขันธ์ 5 ขันธ์ 8 มาขอขมา ขอเอาเรื่องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ในส่วนของคดี พ.ต.อ. ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท กล่าวว่า จากการรับแจ้งความร้องทุกข์จากเจ้าอาวาสวัดเจริญวารี ที่ยืนยันจะเอาเรื่องในข้อหาทำร้ายร่างกายนั้น ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว เจ๊บัวบานก็ยอมรับว่าทำถาดอาหารหกใส่เจ้าอาวาสจริง แต่ไม่มีเจตนา ส่วนเจ้าอาวาสก็สอบถามแล้วและมีความเข้าใจแล้ว ขอเพียงเจ๊บัวบานเข้ากราบขอขมาโทษที่วัดก็จะยกโทษให้และไม่ติดใจเอาความ

DES เผย ปี 2564 อาชีพครูแชร์ ‘ข่าวปลอม’ มากสุด จากทั้งหมด 23 ล้านคน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เปิดเผย ข้อมูลสถิติ ข่าวปลอม ภายในปี 2564 โดยพบว่ามีคนแชร์ข่าวปลอมถึง 23 ล้านคน กลุ่มอาชีพครู แชร์ข่าวปลอมมากที่สุด

รมว.ดีอีเอส เปิด ข้อมูลสถิติ ข่าวปลอม ปี 2564 เชิงลึกจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบยอดสะสมจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอมมากกว่า 23 ล้านคน อายุ 18-24 ปี หัวแถวผู้โพสต์และแชร์ข่าวปลอม ด้านกลุ่มอาชีพที่เข้าข่ายเผยแพร่มากสุด คือกลุ่มผู้สื่อข่าวเพราะประชาชนเชื่อถือ เปิดโรดแมปปี 65 ปูพรมสร้างการรับรู้เน้นกิจกรรมให้ประชาชนมีส่วนร่วม ตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงเครือข่ายภาคประชาชน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส/DES) กล่าวว่า จากการติดตามข่าวสาร และการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม ตั้งแต่จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมวันที่ 1 พ.ย 62 ถึง 23 ธ.ค 64 มีจำนวน ผู้โพสต์ข่าวปลอม 1,167,543 คน และจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอม 23,785,145 คน

โดยช่วงอายุของผู้โพสต์และแชร์มากที่สุด คือ

อายุ 18-24 ปี คิดเป็นสัดส่วน 54.5% ขณะที่อายุ 55-64 ปี มีพฤติกรรมแพร่กระจายข่าวปลอมต่ำสุด คิดเป็น 0.1%

สำหรับกลุ่มอาชีพที่สนใจประเด็นข่าวปลอมมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ

– กลุ่มผู้สื่อข่าว คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 16.7% เนื่องมาจากเป็นกลุ่มอาชีพที่ประชาชนให้ความสนใจ และเกิดเชื่อถือในการเผยแพร่มากที่สุด

– กลุ่มผู้จัดการ/ผู้บริหาร 9.3%

– ผู้ประกอบกิจการต่างๆ 8%

ขณะที่ กลุ่มอาชีพของผู้แชร์ข่าวที่เข้าข่ายเป็นข่าวปลอมมากที่สุด 3 อ้นดับแรก ได้แก่

– กลุ่มอาชีพคุณครูอาจารย์ 14.0% ตามมาด้วย

– กลุ่มนักเรียน นักศึกษา

– กลุ่มอาชีพช่างภาพ 9.4%

– กลุ่มอาชีพวิศวกร 7.0%

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ทั้งนี้ เราต้องขอขอบคุณสำนักข่าว และอินฟลูเอนเซอร์หลายราย ที่สนับสนุนการทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน และสาธารณะในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง”